วัดคฤหัสบดี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี
ที่ตั้ง ตรงท่าน้ำวัดคฤหบดี ใกล้กับสะพานพระราม 8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้ที่สัญจรมาจากแยกบางขุนพรหมขึ้นไปบนสะพานพระราม
8 จะมองเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ทางฝั่งขวา เขียนว่า วัดคฤหัสบดี พระอารามหลวง
เริ่มต้นเข้าวัดจากเชิงสะพานพระราม 8 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยซึ่งค่อนข้างจะแคบ ถ้านำรถยนต์มาเองจะลำบากหน่อย แต่ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ก็สะดวกเลยครับ ตลอดทางจะมีป้ายบอกก่อนถึงทางเลี้ยว
เมื่อเข้ามาถึงเขตวัดจะมีที่จอดรถ และสิ่งแรกที่จะเห็นก่อนเข้าพระอุโบสถ คือ รูปปั้นสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี
ด้านหลังรูปปั้นสมเด็จพระพุทธาจารย์โต เป็นเจดีย์ซึ่งมีขนาดไม่สูงนัก และมีรูปทรงสวยงาม
ถัดจากองค์เจดีย์เป็นวิหารที่ภายในประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อพระพุทธแซกคำจำลอง
เมื่อก้าวผ่านกำแพงวัดเข้าสู่เขตพระอุโบสถ จะมองเห็นพระอุโบสถที่ขนาดไม่ใหญ่นัก และด้านข้างจะเป็นวิหารอีก 1 แห่ง
มุมมองด้านหน้าของพระอุโบสถ
มุมมองด้านข้างของพระอุโบสถ
สำหรับมุมนี้ของพระอุโบสถ สามารถมองเห็นสะพาน
พระราม 8 ได้อีกด้วย
พระประธานในพระอุโบสถ คือ หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ
หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองคำ หน้าตักกว้าง 18
นิ้ว
สูง 65 ซม. ภายในองค์หลวงพ่อได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 9 องค์ ถือเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง
ในสมัยอาณาจักรล้านนา ซึ่งมีพระเจ้าไชยเชษฐาเป็นพระมหากษัตริย์
กาลต่อมาพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ต้องไปครองอาณาจักรล้านช้าง (หลวงพระบาง)
ได้อัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญไปด้วย 3 องค์ คือ พระแก้วมรกต พระพุทธแซกคำ และพระบาง
ต่อมาพระองค์ได้ย้ายราชธานีไปตั้งที่นครเวียงจันทน์
ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ไปด้วย
สำหรับการมาประดิษฐานที่ประเทศไทย สืบเนื่องจากเจ้าพระยาบดินทรเดชา
ในสมัย ร.3 ได้เป็นแม่ทัพไปปราบกบฏที่เวียงจันทน์ และได้อัญเชิญพระพุทธแซกคำ (ซึ่งมิได้ถูกอัญเชิญมาเพราะรอดหูรอดตา
เมื่อครั้งที่เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ยกทัพไปตีลาว) นำมาทูลถวาย ร.3 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ
พระราชทาน พระพุทธแซกคำ ให้มาเป็นพระประธานสถิตย์ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดคฤหัสบดี
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2369 จวบจนปัจจุบัน
พระราชานุสาวรีย์พระนางเจ้าจามเทวี
สร้างขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ คือ สร้างเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2554
ตำนานของพระนางเจ้าจามเทวีกับพระพุทธแซกคำ
ในปี พ.ศ. 2499 พระเดชพระคุณพระญาณรังสี (หลวงปู่โต๊ะ พรหมโชตะมหาเถระ)
อดีตเจ้าอาวาสวัดคฤหัสบดี รูปที่ 9
ได้ปรารภถึงหลวงพ่อพระพุทธแซกคำ ว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างกันแน่ และได้กล่าวเล่าเรื่องตำนานการสร้างหลวงพ่อพุทธแซกคำ
ด้วยแรงแห่งการอธิษฐานจิตของพระนางเจ้าจามเทวี ไว้ดังนี้
ครั้งเมื่อพระนางเจ้าจามเทวี
ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นกษัตริยาแห่งนครหริภุญไชย
ได้ให้ช่างสร้างพระพุทธรูปขึ้นมา 3
องค์ เพื่อเป็นการบูชาคุณพระชนก พระชนนี
และเป็นการฉลองในส่วนของพระองค์เอง และได้ทรงตั้งอธิษฐานว่า “พระพุทธรูปทั้ง
3 องค์ สวยงามไม่มีที่ติ ถ้าหากว่ามีพระพุทธรูปองค์ใดที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งกว่า
ก็ขอให้มาปรากฏในมหามณฑลพิธีนี้”
เมื่อจบคำอธิษฐาน ทั่วมณฑลพิธีปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันสีขาว
และมีลำแสงสีทองพาดลงมาจากฟากฟ้า ปรากฏว่ามีพระพุทธรูปทองคำ
ซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามมาก
แหวกอากาศตามลำแสงสีทองลงมาประดิษฐานแทรกในระหว่างพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์
พระนางจามเทวีทรงเห็นอัศจรรย์นั้น
ยิ่งมีจิตโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ทรงโปรดให้จัดงานสมโภช 9 วัน 9 คืน
และได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระพุทธแซกคำ” ตามเหตุที่ท่านได้แหวกอากาศธาตุลงมาตามลำแสงและมาแทรกอยู่กลางพระพุทธรูปทั้ง
3 องค์
มุมมองด้านหน้าของพระอุโบสถ
ด้านในพระวิหารประดิษฐานด้วยพระประธาน 1 องค์ โดยด้านหน้าองค์พระประธาน จะมีรูปหล่อสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี
พระบรมธาตุเจดีย์
ภายในพระบรมธาตุเจดีย์มีห้องที่สถิตพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเมื่อปี
พ.ศ. 2441
ชาวอังกฤษได้ค้นพบโดยบังเอิญในผอบที่บริเวณอันเคยเป็นที่ตั้งของเมืองกบิลพัสดุ์ บนฝาผอบมีจารึกเป็นตัวอักษรพราหมณ์
ระบุว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของพระราชวงศ์ศากยะ
ถือว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุซึ่งพบแห่งเดียวในโลกที่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างแน่ชัด
ครั้นเมื่อ พระชินวรวงศ์ (พระองค์เจ้าปฤษฎางค์)
เสด็จธุดงค์ไปในที่เกิดเหตุในขณะนั้น จึงได้ติดต่ออุปราชอินเดีย ขอให้ถวายพระบรมสารีริกธาตุนี้แด่พระบามสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง
ซึ่งรัฐบาลอังกฤษก็ได้ดำเนินการตามนั้นในเวลาต่อมา
พระบรมสารีริกธาตุส่วนใหญ่ถูกอัญเชิญไปไว้บนพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง)
แต่มีบางส่วนพระบามสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้พระราชทานให้ประเทศญี่ปุ่น
และชาวพุทธในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศศรีลังกา
ที่ประเทศศรีลังกา พระบรมสารีริกธาตุได้ถูกอัญเชิญไปสถิตอยู่ที่วัดศรีสุภูติวิหาร
ที่อำเภอวัสกาดูวา และวัดทิปทุตตมะรามา (วัดไทย) กับวัดโพธิรักษ์รามา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 เจ้าอาวาสวัดโพธิรักษ์รามา ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุองค์หนึ่งให้
ม.ล. อนงค์ ชุมสาย นิลอุบล ซึ่งได้นำมาบรรจุไว้ในพระบรมธาตุเจดีย์ วัดคฤหัสบดี
ในปี พ.ศ. 2554
มุมนี้ถ่ายจากท่าน้ำวัดคฤหัสบดี
สรุปแล้ว วัดฤหัสบดี ถึงแม้จะเป็นวัดที่มีขนาดไม่ใหญ่และมักจะไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนโดยส่วนใหญ่ แต่วัดแห่งนี้ก็เป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ ซึ่งเป็นพระพทุธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประวัติและตำนานอันน่าสนใจเป็นยิ่งนัก
:D
ตอบลบ